เสียงนกร้องและใบไม้ล่วงลงสู่ดินในยามเช้า แสงแดดสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างบานใหญ่ ส่งผมให้สองกายใต้ผ้าห่มเดียวกันต้องขยับเปลือกตาหนีเพราะทนแสงแยงตาไม่ไหว ร่างกายที่เล็กกว่าพยายามยันกายขึ้นเพื่อไปอาบน้ำ แต่เหมือนร่างกายจะไม่อำนวยเหตุเพราะกิจกรรมตลอดทั้งคืนทำให้ร่างเล็กล้มลงบนที่นอนอีกครั้งและเหมือนจะล้มลงไปกระแทกโดนร่างสูงของมุคุโร่ด้วย
“จะรีบไปไหนงั้นเหรอ วองโกเล่”เสียงที่ราวกับสายหมอกอย่างมุคุโร่ ถามขึ้นอย่างราบเรียบพลางใช้สายตาจับจ้องไปทั่วทุกส่วนของร่างบาง จนทำให้ร่างบางต้องหลบตาหนีเพราะไม่อาจทนกับสายตาเจ้าเล่ห์และซุกซนของมุคุโร่ได้
”ก็..ผมจะไปอาบน้ำไงครับ”ผืนนภาแห่งวองโกเล่ นาม ซาวาดะ สึนะ โยชิ ตอบ พลางดันตัวออกจะอ้อมแขนแกร่งของมุคุโร่เพราะไม่รู้เค้าจะโดนล่วงเกินอีกเมื่อไหร่ เล่นจ้องซะขนาดนั้น ถ้ากินเค้าได้คงกินไปแล้วมั้ง แต่ก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นเมื่อลำแขนแกร่งจะไม่ยอมคลายอ้อมกอดแล้วยังกอดแน่นขึ้นอีก จนคนตัวเล็กเบื่อที่จะดิ้นแต่ก็ยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปสบสายตาเจ้าของอ้อมกอด มุคุโร่ชักไม่พอใจฝ่ามือแกร่งเชยคางให้ใบหน้าหวานเงยขึ้นอย่างช้าๆและสบตากับเจ้าของใบหน้า ก่อนจะแนบริมฝีปากหยักของตนเองลงกับริมฝีปากของร่างเล็กข้างใต้ ลิ้นหนาถูกส่งเข้าไปควานหาความหวานข้างใน หยอกล้อกับลิ้นเล็กอย่างช่ำชองจนทำให้สึนะเผลอเคลิ้มไปด้วย ก่อนที่จะผละออกมา แล้วเลื่อนใบหน้ามากระซิบที่ข้างหู
”มอร์นิ่งคิสครับ วองโกเล่”ได้ยินดังนั้นทำเอาสึนะหน้าแดงเพราะความอายอีกรอบ ลำแขนแกร่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ซึ่งเป็นเวลานาน จนทำให้คนที่ถูกกอดรู้สึกอึดอัด พยายามดันตัวออกจะวงแขนของมุคุโร่ พร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปสบตาแต่กลับเจอสีหน้าไม่พอใจของร่างสูง
”ผมอึดอัดอะครับ แล้วก็อยากอาบน้ำด้วย”สึนะเอ่ยอย่างขออนุญาต และเมื่อเห็นว่ามุคุโร่คลายอ้อมกอดออก ร่างบางของสึนะก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว เพราะถ้าอยู่กับคนเจ้าเล่ห์อย่างนั้นอีกนาทีเดียวเค้าไม่รู้ว่าจะมีแรงเดินไหมวันนี้ เฮ้อ
”จะกลัวอะไรกันหนักหนาครับ วองโกเล่ หึหึ”ร่างสูงเอ่ยอย่างขำๆกับตนเอง ในท่าทีของคนตัวเล็กที่กลัวเค้าไม่เคยเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ ‘คบ’ กันมาและเป็นคนรักของกันและกัน มุคุโณ่อมยิ้มกับตนเองในความน่ารักของคนรัก แต่อย่าไปน่ารักอย่างนี้กับใครที่ไหนที่ไม่ใช่ผมละครับ วองโกเล่ ผมจะไม่ปล่อยคนๆนั้นแน่ๆครับ วองโกเล่ หึหึ
หลายนาทีผ่านไป ประตูห้องน้ำถูกผลักออกโดยฝ่ามือเรียวเล็กของสึนะ ที่ร่างทั้งร่างมีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวห่อหุ้มร่างกายไว้ ผิวเนื้อเนียนขาวถูกลงรอยประทับเป็นรอยแดงจ้ำๆแสดงความเป็นเจ้าของที่ร่างสูงได้กระทำไว้ หยดน้ำเกาะพราวตามเนื้อเนียนเป็นบางแห่ง ซึ่งดึงดูดสายตาของมุคุโร่ได้อย่างดี ฝ่ามือเรียวไล่ไปตามเสื้อแต่ละตัวเพื่อเลือกใส่ โดยไม่ทันสังเกตว่าคนมุคุโร่ได้มายืนอยู่ด้านหลังตนเองเรียบร้อยแล้ว
”อุ่ย.....อะ...เอ่อ มายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”สึนะเอ่ยถามเมื่อหันหลังชนเข้าที่อกแกร่งอย่างจัง ขณะที่ตาโตกลมๆใสๆเงยขึ้นสบดวงตาคม ร่างสูงที่ทั้งตัวมีแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเหมือนกันทำเอาร่างบางหายใจไม่ทั่วท้อง ลำแขนแกร่งยกขึ้นเอื้อมไปโอบร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด พร้อมยกยิ้มมุมปากและฉายแววตาเจ้าเล่ห์อย่างไปปิดบัง
”ยั่วกันแต่เช้าอย่างนี้ไม่ดีเลยนะครับ วองโกเล่ หึหึ”ลำแขนแกร่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น พลางใช้สายตาจับจ้องสำรวจทุกซอกทุกมุมของร่างบาง ใบหน้าหวานที่ตอนนี้เริ่มขึ้นสีระเรื่อ ทำให้ร่างสูงนึกพอใจที่ทำให้คนตัวเล็กในอ้อมแขนเขินได้ น่ารักอย่างนี้รักตายเลยนะครับ วองโกเล่ หึหึ
”ผมแค่..เอ่อ..จะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเท่านั้นเองนะครับ”ริมฝีปากบางอมชมพูเอ่ยตอบ พร้อมกับก้มหน้างุดหลบสายตาซุกซนที่ฉายออกมาอย่างไม่ปิดบังของมุคุโร่ ร่างสูงยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเชยคางคนตัวเล็กขึ้นอย่างช้าๆและแนบริมฝีปากของตนเองลงกับริมฝีปากของคนตัวเล็กในอ้อมกอดช้าๆ แตะครั้งนึงเหมือนของอนุญาต เมื่อเห็นว่าสึนะไม่มีท่าทีขัดขืน ลิ้นหนาก็ถูกส่งเข้าไปหาความหวานจากโพรงปากนุ่ม หยอกล้อกับลิ้นเล็กอย่างสนุกสนาน แขนเรียวบางของคนตัวเล็กยกขึ้นโอบรอบลำคอแรงของมุคุโร่ราวกับเผลอไปกับรสจูบที่ได้รับ จูบครั้งนี้เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและหวาบหวามในคราเดียวกัน แต่ก็ต้องหยุดชะงักลงด้วยเสียงเรียกของ
~ ก๊อก ๆ ๆ ~
”เปิดประตูหน่อย สึนะ”เสียงอัลโกบาเลโน่ ทารกน้อยที่แข็งแกร่งที่สุดในวงการมาเฟีย นาม รีบอร์น เอ่ยเรียกเจ้าของห้อง สึนะลดแขนลงพร้อมกับพยายามดันตัวเองออกจากอ้อมกอดของมุคุโร่ แต่ร่างสูงเหมือนจะไม่ยอมและไม่พอใจที่โดนขัดจังหวะแต่จำต้องคลายอ้อมกอดเมื่อคนตัวเล็กให้เหตุผลว่า
”อาจจะมีเรื่องสำคัญก็ได้นะครับ”จำร่างสูงยอมปล่อยให้คนในอ้อมกอดให้เป็นอิสระ ก่อนที่สึนะจะพาตัวเองเดินไปเปิดประตูของผู้มาเยือน
”มีอะไรเหรอ รีบอร์น”ใบหน้าหวานชะโงกออกมาถาม อัลโกบาเลโน่
”แซนซัสเค้ามาหา เหมือนมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย รีบแต่งตัวแล้วลงมาซะ”พูดจบ ทารกน้อยก็เดินหันหลังลงบันไดไป ทำเอาสึนะงงไปชั่วขณะ แล้วรีบพาตัวเองเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที เพราะเค้าก็กลัวแซนซัสเท่าๆกับกลัวสายหมอกอย่างมุคุโร่เหมือนกันสึนะเดินเข้ามาไม่เห็นมุคุโร่คงจะเข้าไปอาบน้ำแล้วเหมือนกัน จึงรีบแต่งตัวและลงมาข้างล่างตรงไปยังห้องรับแขกทันที
~ ห้องรับแขก ~
”ฮะ ฮ่า ๆ ๆ”เสียงหัวเราะสดใสดังออกจากปากคนตัวเล็กทำเอาขาของมุคุโร่ที่เพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จกำลังลงบันไดต้องหยุดชะงัก หนีผมลงมานั่งหัวเราะกับใครตั้งแต่เช้ากันครับ วองโกเล่ แต่ก็ได้คำตอบเมื่อได้ยินเสียงคุยกันชัดขึ้น
”นี่!! หยุดหัวเราะสักทีไอสวะหน้าอ่อน จะช่วยหรือไม่ช่วย ไม่ช่วยจะได้กลับ เดี๋ยวก็ฆ่าทิ้งซะนี่”เสียงเหี้ยมโหดของคู่สนทนาดังขึ้น ทำให้ร่างสูงเขยิบเข้าชิดผนังเพื่อให้ได้ยินเสียงสนทนาชัดเจน ตอนนี้เค้ารู้แล้วล่ะว่า คนตัวเล็กคุยกับใคร
”เอ่อ...ครับ ๆ ช่วยสิครับ ฮ่า ๆ”คนตัวเล็กพูดและยังคงหัวเราะอยู่
”งั้นก็ตามมา”เสียงโหดเหี้ยมดังขึ้นอีกครั้งก่อนจะเงียบไปเนื่องจากคู่สนทนาไม่ได้อยู่ในห้องรับแขกอีกแล้ว เสียงรถยนต์ดังขึ้น เป็นสัญญาณว่าทั้งสองได้ออกจากบ้านไปเรียบร้อยแล้ว
”ไปไหนไม่คิดบอกผมเลยนะครับ วองโกเล่”ผู้พิทักษ์แห่งสายหมอกยกยิ้มมุมปากขึ้นอีกครั้ง แต่สายตาราวกับจะลุกเป็นไฟที่เผาไหม้อะไรก็ได้ที่ทำให้เค้าหงุดหงิด นี่เหรอครับเรื่องสำคัญ สำคัญมากกว่าผมงั้นเหรอครับ วองโกเล่ หึหึ ริมฝีปากยกยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ภายในจิตใจร้อนระอุอัดอั้นจนอยากระบายออกมา คิดได้ดังนั้นร่างสูงเดินออกจากบ้านโดยบอกทารกน้อยไปว่า ‘ผมไปทำงานก่อนนะครับ อัลโกบาเลโน่’ แล้วก็พาตัวเองเดินออกอาณาเขตของวองโกเล่
แล้วเวลาก็เดินผ่านไปจนล่วงเลยมาเกือบจะเที่ยงคืน
”ยังไม่กลับอีกงั้นเหรอ วองโกเล่ ดึกแล้วนะครับ”มุคุโร่พึมพำกับตนเองเบาๆในห้องนอนของสึนะกับเขา สายตาคมจ้องทะลุผ้าม่านจนขาดเป็นสองท่อน ผมรอมาตั้งนานแล้วนะครับ ไม่คิดจะกลับบ้านเลยรึครับ วองโกเล่ สายตาคมหันไปจับจ้องที่ประตูครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อไม่มีอะไรเกิดขึ้น เสียงเครื่องยนต์ของรถสัญชาติอิตาลีดังเข้ามาในโสตประสาทของมุคุโร่ ร่างสูงพาตัวเองไปที่หน้าต่างบานใหญ่แล้วเค้าก็เห็นว่าคนตัวเล็กลงมากับร่างสูงใหญ่ของแซนซัส คุยกันสักพักแล้วแซนซัสก็กลับไป
”สงสัยคืนนี้คุณจะไม่ได้นอนแล้วนะครับ วองโกเล่”มุคุโร่กล่าวจบก็ไปดักรอสึนะที่หน้าประตูห้องนอน เสียงฝีเท้าชะงักอยู่หน้าห้อง เหมือนกับกำลังทำอะไรผิดมาเลยนะครับ วองโกเล่ หึหึ
ร่างบางของสึนะมาหยุดอยู่หน้าห้องนอนของตัวเอง เพราะกลัวว่ามุคุโร่ยังไม่นอน กลับดึกป่านนี้ มุคุโร่คงไม่รอเราหรอกเนอะ เฮ้อ แล้วถ้ายังไม่นอนล่ะ ตายแน่ ลืมโทรมาบอกซะสนิทว่าจะกลับช้า จะโดนอะไรอีกก็ไม่รู้ ตาย ๆ ๆ รังสีอันตรายแผ่เข้ามาแล้ว เอ้า สู้ๆสึนะ ว่าแล้วมือเรียวก็เอื้อมไปดึงลูกบิดประตู
~ แอ๊ดดดดด..... ~
ค่อยยังชั่ว ไฟปิดหมดแล้ว คนตัวเล็กพึมพำกับตนเองเบาๆ ก่อนจะค่อยๆย่องเข้าห้องน้ำไป ทุกท่วงท่าที่สึนะกระทำอยู่ในสายตาคมที่จับจ้องตลอดในความมืด เสียงสายน้ำดังไม่ขาดสายทำให้รู้ว่ามีคนอยู่ มุคุโร่รออย่างใจเย็นหน้าห้องน้ำรอให้คนข้างในอาบน้ำเสร็จ
จนหลายนาทีผ่านไปมุคุโร่ได้ยินเสียงเปิดประตู คาดว่าคนตัวเล็กคงอาบน้ำเสร็จแล้ว ได้เวลาคุยกันสักทีนะครับ วองโกเล่ ร่างบางของสึนะค่อยๆย่องเพื่อหาชุดนอนใส่ และเพื่อกันเสียงดังอาจทำให้ร่างสูงของมุคุโร่ตื่นได้ โดยไม่ทันสังเกตคนตัวเล็กก็ตัวลอยเหมือนกับถูกอุ้ม สึนะหน้าเหวอเล็กน้อย ก่อนจะออกอาการดิ้นขัดขืนแต่ก็ต้องหยุดเมื่อได้ยินเสียงกระซิบข้างหู
”ไปคุยกับผมหน่อยนะครับ วองโกเล่”มุคุโร่เอ่ยก่อนกระชับอ้อมกอดให้สึนะซบที่อกแกร่ง ซึ่งตอนนี้สึนะไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด มุคุโร่เดินมาเรื่อยๆก่อนที่จะวางร่างของสึนะลงบนเตียงและขึ้นคร่อมทันทีพลางจับจ้องที่ใบหน้าหวาน ซึ่งตอนนี้มุ่งมั่นที่จะหันหน้าหนีเค้าอย่างเดียว
”คุณหันหน้าหนีผมทำไมครับ วองโกเล่”มุคุโร่เชยคางให้ใบหน้าหวานหันมาสบตากับตนเองตรงๆอย่างหาคำตอบ
”เลิกเรียกผมอย่างนั้นสักทีได้ไหม!!...เอ่อ...ครับ”คนตัวเล็กที่เผลอขึ้นเสียงใส่ ทำเอามุคุโร่เผลอจ้องใบหน้าหวานอย่างไม่พอใจ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยถาม
”แล้วจะให้ผมเรียกว่าอะไรล่ะครับ”มุคุโร่ถามอย่างขำๆเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กทำสีหน้าหวาดๆเมื่อเค้าทำหน้าโกรธ ก่อนจะโน้มหน้าไซร้ซอกคอขาวเนียนที่มีรอยประทับที่ยังไม่จาง ขบติ่งหูเบาๆก่อนพอทำให้คนตัวเล็กสะท้านได้
”ก็..เรียกชื่อ ผ....ผมสิครับ”คนข้างใต้เอ่ยตอบ เค้าก็ไม่ค่อยชอบที่มุคุโร่ที่เรียกเอาแต่เรียกว่า วองโกเล่อย่างนั้น วองโกเล่อย่างนี้ เค้าก็มีชื่อนะ แต่ทำไมต้องมาไซร้ซอกคอเค้าด้วยเนี่ย
”ก็ได้ครับ สึนะโยชิ แต่เรื่องนั้นไม่ใช่ประเด็นหรอกนะครับ ตอบผมมาสิครับว่าวันนี้คุณไปไหนมาทั้งวัน”ร่างสูงยกใบหน้าออกมาจากซอกคอของคนตัวเล็กพร้อมกับเปิดประเด็น เล่นเอาร่างบางสะอึก มุคุโร่รอเค้าเพื่อถามคำถามนี้นะเหรอ ตอนนี้เค้าอยากจะหัวเราะแต่ทำไม่ได้เพราะมือของมุคุโร่ยังคงวุ่นวายอยู่กับร่างกายของเค้า และพยายามที่จะแกะผ้าเช็ดตัวที่ห่อหุ้มร่างเค้าอยู่ออก แต่สึนะไม่ยอมพยายามใช้มือของตนเองปัดมือของมุคุโร่ออกแต่ก็แค่นั้นเพราะสองมือเรียวของสึนะถูกกุมอยู่เหนือหัวโดยฝ่ามือแกร่งเพียงมือเดียวของมุคุโร่
”เอ่อ...คุณมุคุโร่ครับ ผมแค่ไปช่วยให้แซนซัสคืนดีกับสควอโล่เองนะครับ ผมไม่ได้ไปทำอะไรเลยนะครับ”ร่างบางต้องพูดอะไรสักอย่างให้ร่างสูงหยุดการกระทำที่ทำให้เค้าไม่เป็นตัวของตัวเอง เคลิ้มไปกับสัมผัสที่ร่างสูงมอบให้ ฝ่ามือแกร่งหยุดชะงักที่ตอนนี่ไล่ไปตามต้นขาขาวแล้ว
”จริงๆนะครับ ก็เค้าทะเลาะกัน ผมเลยไปช่วยงานเซอร์ไพส์วันเกิดของสควอโล่ เลยกลับดึก ขอโทษจริงๆนะครับที่ไม่ได้โทรบอก”ร่างบางที่อยู่ข้างใต้ตอบอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าเค้าได้ทำแบบนี้จริงๆ เมื่อใบหน้าคมละจากซอกคอขาวของร่างบางเงยขึ้นสบกับตากลมโตใสๆแววตาใสซื่อ จนมุคุโร่เชื่อ
สายตาซุกซนมองตามร่างบางอย่างช้าๆ มือแกร่งลากไล่ไปตามตัวของคนตัวเล็กช้าๆเคล้นคลึงหยอกล้อกับตุ่มไตสีสวยที่ประดับอยู่บนอกของร่างบาง
”ค..คุณ..มุ..มุคุโร่ครับ ผ..ผมขอไปใส่เสื้อผ้า ก...ก่อนนะครับ ด...ดึกแล้ว”สึนะพูดอย่างตะกุกตะกักก็เพราะตอนนี้ร่างกายไม่ได้เชื้อฟังเค้าเลยสักนิดมันอยู่เหนือการควบคุมของเค้า ร่างสูงตรงหน้ากับควบคุมมันได้ดียิ่งกว่าตัวเค้าเองซะเอง คุณมุคุโร่ไม่อยากจะให้เค้าได้พักเลยรึไง
”จะใส่ไปทำไมกัน เดี๋ยวก็ต้องถอดอยู่ดี”ร่างสูงยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าลงชิมริมฝีปากหวานตรงหน้าที่เจ้าตัวเล็กนิ่งจากประโยคที่เค้าพูดไปแล้ว ตอนแรกร่างบางกลับเม้มแน่นไม่ยอมให้ร่างสูงรุกรานตนเองแต่ก็ต้องเผยอออกเพราะไม่มีออกซิเจนหายใจก็ต้องอ้าออกเพื่อเอาอากาศเข้าไปแต่เหมือนกับเปิดทางให้กับร่างสูงได้เข้าไปหาความหวานด้านในโพรงปากนุ่มลิ้นหนาไล่ไปตามแนวฟันทุกซี่ หยอกล้อ อ่อนหวาน หวาบหวามและเร่าร้อนในคราเดียวกัน จนร่างบางต้องขออากาศหายใจ
“อืม....อึก...อ่า...ฮือ”สึนะพยายามหายใจเอาอาการเข้าไปให้ได้มากที่สุด ดวงตากลมใสหวานเยิ้มเพราะเริ่มจะมีอารมณ์กับสัมผัสที่มุคุโร่มอบให้ ทำเอามุคุโร่อยากจะเก็บร่างบางนี้ไว้คนเดียว ไม่อยากให้ใครเห็น คนตรงหน้าเป็นของเค้าเพียงคนเดียว ถ้าใครคิดจะมาแย่งล่ะก็ หึหึ อย่าหาว่าเค้าไม่เตือน วันนี้ที่ร่างบางหายไปกับแซนซัสเที่ยงวันยันเที่ยงคืนแบบนี้เค้าก็หงุดหงิดอยู่ไม่ใช่น้อย แต่เห็นสายตาของคนตัวเล็กแล้ว เค้าก็โกรธไม่ลง ฝ่ามือแกร่งทำหน้าที่ของมันอย่างรู้งานลากไล้ไปตามเนื้อเนียนของสึนะอย่างหลงใหล ริมฝีปากหยักก็ลากจูบไปตามใบหน้า จากหน้าผาก เปลือกตา จมูก แก้ม และมาหยุดลงที่ริมฝีปากสีสด กดจูบลงแรงๆอย่างหมั่นเขี้ยวขบเม้มเบาๆเพื่อเร้าอารมณ์ ฝ่ามือลากไล้ลงมาอย่างเรื่อยๆ
ร่างสองร่างมอบความอบอุ่นให้กันอย่างมีความสุข เมื่อเสร็จจากเพลิงสวาทแล้ว ร่างสูงนอนนิ่งสักครู่ก่อนจะขยับมานอนข้างๆร่างบางที่นอนหายใจแรงๆอยู่ ลำแขนแกร่งเอื้อมมากวาดร่างบางเข้มาในอ้อมกอดให้ใบหน้าหวานซบลงที่อก
”กู๊ดไนท์คิสหน่อยนะครับ.....สึนะคุง”มุคุโร่เอ่ยขอ สึนะเมื่อได้ยินดังนั้นจึงเงยหน้าขึ้นสบกับดวงตาคมก่อนจะประทับจูบอย่างแผ่วเบา มันเป็นการจูบแบบผิวเผินเท่านั้นแต่ทำให้สองกายที่นอนอยู่บนเตียงมีความรู้สึกหวานล้ำลึก รู้สึกดีจริงๆให้ตายเหอะ
”ฝันดีนะครับ....คุณมุคุโร่”
“ฝันดีครับ...ที่รักของผม”คำพูดหวานหูของมุคุโร่เหมือนลำนำที่ขับกล่อมให้สึนะเข้าสู่ห้วงภวังค์แห่งความฝัน ร่างสูงยกยิ้มน้อยๆก่อนจะกระชับอ้อมกอดอีกครั้ง ก่อนจะก้มลงไปกระซิบข้างหูของคนที่หลับไปแล้วว่า
” love you today tomorrow and forever”แล้วทั้งคู่ก็เข้าสู่ในห้วงนิทราของตนเอง....
The end
..
_________________
เป็นไงมั้งอ่าาา ช่วยเม้นบอกด้วยนะ
จะขอบคุณมากกกก....
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น